เคยมั้ย? รู้สึกเหมือนเงินเดือนที่ได้มา แค่ผ่านมือก็หายไปไหนไม่รู้ หักค่าหนี้บัตร ค่าผ่อนนู่นนี่ กดมือถือดูยอดคงเหลือแล้วถอนหายใจแรง! ถ้ากำลังเผชิญปัญหานี้อยู่ บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องแปลก ใครๆ ก็เคยมีช่วงที่ “หนี้” รุมเร้า แต่จะปล่อยให้หนี้กวนใจไปตลอดก็ไม่ใช่ทางออกที่ดี
วันนี้เราจะพาไปดู 5 ขั้นตอนจัดการหนี้ให้หมดไว แบบที่มือโปรทางการเงินเขาใช้กัน ไม่ต้องเป็นนักบัญชี ก็ทำได้ ขอแค่มีวินัย และลงมือทำจริง!
5 ขั้นตอนจัดการ หนี้ ให้หมดไว
1. รวบยอดหนี้ แล้วเรียงตามลำดับความสำคัญ
อันดับแรกเลย เราต้องรู้จักหนี้ของตัวเองก่อน ไม่ใช่ปล่อยให้มันกระจายเต็มไปหมด จนไม่รู้ว่าตกลงเราติดหนี้ใครบ้าง ต้องเริ่มจากจดรายการหนี้ให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต หนี้นอกระบบ ผ่อนรถ ผ่อนมือถือ หรือแม้แต่หนี้เพื่อน ลิสต์ออกมาเลยให้ชัดเจน พร้อมระบุยอดคงเหลือ ดอกเบี้ย และกำหนดชำระในแต่ละเดือน
พอได้ลิสต์ครบแล้ว ให้เรียงลำดับความสำคัญว่า หนี้ก้อนไหนควรจัดการก่อน ส่วนใหญ่แนะนำให้เริ่มจากหนี้ที่ดอกเบี้ยสูงสุดก่อน เช่น หนี้บัตรเครดิต เพราะดอกโหดมาก ยิ่งปล่อยไว้นาน ยิ่งจ่ายเยอะ แล้วค่อยตามด้วยหนี้ก้อนใหญ่หรือหนี้ที่มีผลต่อประวัติเครดิต แบบนี้จะช่วยให้คุณบริหารหนี้ได้ง่ายขึ้น และมีโฟกัสไม่วอกแวก
2. จัดงบรายเดือนใหม่ ให้เหลือเงินไปโปะหนี้
หลายคนติดหนี้เพราะใช้จ่ายแบบ “เงินเดือนเข้า ปุ๊บ ก็หายไปกับสายลม” ถ้าอยากหลุดจากวงจรนี้ ต้องจัดระเบียบรายจ่ายใหม่ทั้งหมด ลองนั่งดูว่ารายรับของเรามีเท่าไหร่ รายจ่ายประจำแต่ละเดือนเป็นยังไง แล้ววางแผนแบบจริงจังว่าจะกันเงินส่วนไหนไปจ่ายหนี้โดยเฉพาะ ไม่ใช่คิดแบบเผื่อๆ แล้วไม่เหลือสักที
ถ้าลองใช้สูตร 50/30/20 แล้วไม่ไหว ลองเปลี่ยนเป็น 60/20/20 หรือแม้แต่ 70/10/20 ก็ยังได้ โดยเพิ่มสัดส่วนสำหรับโปะหนี้มากขึ้น แล้วค่อยกลับมาปรับใหม่เมื่อหนี้เริ่มลดลง ที่สำคัญต้องตัดรายจ่ายไม่จำเป็นก่อน เช่น กาแฟทุกวัน แอปสตรีมมิ่งที่ไม่ได้ดู หรือของฟุ่มเฟือย พอเราจัดงบดี หนี้ก็เคลียร์ได้ไวขึ้นเยอะเลย
3. เลือกกลยุทธ์โปะหนี้แบบเหมาะกับตัวเอง
ถ้าจะเคลียร์หนี้ให้ไว ต้องมีแผนการลุย ไม่ใช่จ่ายมั่วๆ ไปเรื่อยๆ แบบนั้นไม่เวิร์ก ลองเลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะกับตัวเอง เช่น “Snowball” คือเริ่มจากหนี้ก้อนเล็กก่อน พอปิดหนี้ได้ 1 ก้อนก็จะรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น เหมาะกับคนที่ต้องการความรู้สึกว่า “ฉันก็ทำได้” เพื่อฮึดสู้ต่อกับหนี้ก้อนอื่น
หรือถ้าอยากประหยัดเงินในระยะยาว แนะนำใช้วิธี “Avalanche” คือเริ่มจากจ่ายหนี้ที่ดอกเบี้ยสูงสุดก่อน เช่น บัตรเครดิต แล้วไล่ไปหาดอกต่ำ วิธีนี้ถึงจะไม่ได้เห็นผลเร็วในแง่ของจำนวนหนี้ที่ลดลง แต่ช่วยประหยัดดอกเบี้ยเยอะมากในระยะยาว เลือกวิธีที่เราทำได้จริง แล้วลงมือแบบมีวินัย แค่นี้ก็เห็นผลแล้ว
4. ต่อรอง รีไฟแนนซ์ หรือรวมหนี้ถ้าไหว
ถ้ารู้สึกว่าเรามีหนี้หลายก้อนจนจัดการไม่ไหวแล้ว ลองหาทาง “รวมหนี้” หรือ “รีไฟแนนซ์” ดูก็ได้นะ อย่างบางธนาคารมีบริการรวมหนี้บัตรเครดิตกับสินเชื่อไว้ก้อนเดียว แล้วให้ผ่อนยาวขึ้น ดอกเบี้ยต่ำลง วิธีนี้จะช่วยให้เราจัดการได้ง่ายขึ้น เพราะเหลือแค่ยอดเดียวในการดูแล
หรือถ้าเจอเจ้าหนี้ที่คุยได้ ลองโทรไปขอต่อรองดอกเบี้ย หรือขอขยายเวลาผ่อนชำระได้เลย บางที่เขายอมช่วยนะ เพราะเขาเองก็อยากได้เงินคืนเหมือนกัน แต่อย่าลืมอ่านเงื่อนไขให้ดี ดูให้แน่ใจว่าไม่มีค่าปรับ หรือค่าธรรมเนียมแฝง ถ้าเช็กละเอียดแล้วโอเค ก็ลุยเลย ไม่มีอะไรน่าอายในการขอความช่วยเหลือเพื่อออกจากหนี้
5. ตัดสิ่งล่อใจ เพิ่มรายได้ แล้วเก็บนิสัยไว้ใช้ตลอดชีวิต
หนี้จะหมดไม่ได้ ถ้าเรายังใช้จ่ายแบบเดิม ซื้อตามใจ ใช้บัตรรูดทีละพันสองพันโดยไม่คิด ตอนนี้ถึงเวลาต้องตัดสิ่งล่อใจทิ้งบ้าง เช่น ลบแอปช้อปปิ้งจากมือถือ ตั้งเป้าว่า 30 วันจะไม่รูดบัตรเลย หรือเลิกซื้อของลดราคาแบบไม่มีเหตุผล พอเราหยุดนิสัยเดิมๆ ได้ เราจะเห็นเลยว่าเงินเหลือมากขึ้นแบบชัดเจน
นอกจากประหยัดแล้ว ลองหาวิธีเพิ่มรายได้ด้วย เช่น รับงานเสริม ขายของที่ไม่ใช้แล้ว หรือทำคอนเทนต์เล็กๆ ก็พอมีรายได้เข้ามาเสริมได้ การมีรายได้เพิ่ม จะทำให้เราโปะหนี้ได้ไวขึ้น และสุดท้ายเมื่อหนี้หมด อย่ากลับไปพฤติกรรมเดิมเด็ดขาด! เก็บนิสัยการใช้เงินแบบมีสติเอาไว้ใช้ต่อไปตลอดชีวิตเลยจะดีที่สุด
หนี้ดี vs หนี้เสีย ต่างกันยังไง?
ไม่ใช่หนี้ทุกก้อนจะเป็นเรื่องแย่นะ บางก้อนเรียกว่า “หนี้ดี” ด้วยซ้ำ
หนี้ดีคือหนี้ที่ช่วยให้เราสร้างทรัพย์สินหรือรายได้ในอนาคต เช่น กู้ซื้อบ้านเพื่อลงทุน กู้เพื่อเรียนต่อ หรือกู้ทำธุรกิจ แบบนี้ถึงจะเป็นหนี้ แต่ถ้าคิดคำนวณดีๆ แล้วผลตอบแทนที่ได้ในอนาคตมันคุ้ม ก็ถือว่าโอเค
ในทางตรงข้าม “หนี้เสีย” คือหนี้ที่จ่ายไปแล้วไม่ได้อะไรกลับมาเลย เช่น หนี้บัตรเครดิตที่ใช้รูดของฟุ่มเฟือย หรือกู้เงินมาใช้จ่ายทั่วไปแบบไม่มีแผน แบบนี้เสี่ยงจะวนลูปหนี้เรื่อยๆ โดยไม่เกิดประโยชน์ เพราะฉะนั้น ก่อนจะเป็นหนี้ ลองถามตัวเองก่อนว่า "หนี้ก้อนนี้จะช่วยอนาคตเราจริงไหม?"
เป็นหนี้นอกระบบ อันตรายแค่ไหน?
ใครที่กำลังคิดจะหยิบยืมเงินจากหนี้นอกระบบ ขอบอกเลยว่า คิดดีๆ ก่อนนะ!
หนี้นอกระบบมักมาพร้อมดอกเบี้ยโหดแบบรายวัน บางทีคิดเป็น 20-30% ต่อเดือนก็มี แถมไม่มีสัญญาชัดเจน พอผิดนัดปุ๊บก็เจอทวงหนี้โหด หรือโดนประจาน ซึ่งอันตรายมากๆ ทั้งด้านกฎหมายและความปลอดภัย
ถ้าจำเป็นต้องกู้เงินจริงๆ แนะนำให้หาช่องทางที่เป็นทางการ เช่น สินเชื่อส่วนบุคคลจากธนาคาร หรือสหกรณ์ของที่ทำงาน แม้จะมีขั้นตอนเยอะ แต่ก็ปลอดภัยกว่าเยอะ และดอกเบี้ยถูกกว่ามาก อย่าเห็นแก่ความเร็วระยะสั้น จนพาตัวเองตกไปในหนี้ที่ออกไม่ได้เลยนะ!
สรุปส่งท้าย
การจัดการหนี้ไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนควรเรียนรู้!
แค่กล้าสู้ และวางแผนให้ดี หนี้ก็จะกลายเป็นอดีตที่คุณภูมิใจได้
อย่าลืมว่า “ทุกคนมีสิทธิ์เริ่มต้นใหม่เสมอ” และหนี้ก็แค่ทางผ่าน ไม่ใช่จุดจบของชีวิต
ถ้าใครอ่านจบแล้วฮึดขึ้นมา อย่ารอ! ลองหยิบสมุดขึ้นมาเขียน “รายการหนี้” ตอนนี้เลย แล้วเริ่มทำตาม 5 ขั้นตอนนี้ให้ครบ รับรองว่าหนี้จะค่อยๆ เบาลง และหมดไปแน่นอน
ไม่อยากเป็นหนี้ ลองเล่น หวยไวถูกกฎหมาย งบน้อยได้เงินไว คลิกเลย! >>